
เมื่อ 14 กันยายน 60 ที่โรงแรมแกรนด์โซเล่ พัทยา นายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา (PBTA) เป็นประธานเปิดการประชุมประจำเดือนกันยายน 2560 พร้อมรองประธาน เลขานุการ ที่ปรึกษาสมาคม และตัวแทนจากองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

น.ส.สุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา เผยว่า สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวในภาพรวมของประเทศไทยและเมืองพัทยา พบว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวเติบโตขึ้น โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นปัจจุบันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก หรือจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 32.6 ล้านคน แต่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก หรือกว่า 49.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในปี 2561 นี้คาดว่าสัดส่วนของนักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวภายในประเทศจะโตขึ้นอีก 8.5 % และนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอีก 10 % สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับความนิยมจากสถิติก็จะพบว่าเป็นพื้นที่ภาคเหนือที่ 40 % ขณะที่ภาคตะวันออกนั้นจะอยู่ที่ 8 % แต่ก็ถือว่ามีปริมาณสูงเนื่องจากพื้นที่และมีจำนวนจังหวัดน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยแผนการส่งเสริมการตลาดในภาพรวมนั้นจะเน้นการขยายกลุ่มตลาดคุณภาพ ด้วยการสร้างกระแสความใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม และการสร้างคอนเทนต์ต่างๆเพื่อเพิ่มคุณค่าทางการท่องเที่ยว
ส่วนสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเมืองพัทยาปี 2559 มียอดนักท่องเที่ยวรวมกว่า 13.69 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่ในปี 2560 ในช่วง 2 ไตรมาสแรกพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนแล้วกว่า 8 ล้านคนหรือสูง ขึ้นจากปีที่ผ่านมา 5 % สร้างรายได้กว่า 1.1 แสนล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 15 % และคงจะมียอดตัวแลขและรายได้สูงขึ้นตามเป้าหมายแน่นอน เนื่องจากมีหลายปัจจัยสนับสนุนและการตอบรับจากนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้
ด้าน พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้แนะนำในที่ประชุมถึงการใช้งานเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวผ่านทางแอปพลิเคชั่นชื่อว่า TRIP BUDDY ที่มีการพัฒนาผ่านมาตรฐานของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช.มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยในส่วนของแอปพลิเคชั่น TRIP BUDDY ที่กำลังจะเปิดใช้นี้เป็นระบบให้บริการอัจฉริยะผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่มีความสะดวกสบายสามารถดาวน์โหลดผ่านทาง App Store สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการ iOS และสามารถดาวน์โหลดผ่านทาง Play Store สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนในระบบ ปฏิบัติการ Android ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับแอปพลิชั่นดังกล่าวนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้ประโยชน์ในการขอความช่วยเหลือด้านต่างๆ สำหรับในเมืองพัทยานั้น จะมีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรมจากตำรวจท่องเที่ยวพัทยาคอยให้บริการและประสานงานให้ความช่วยเหลือในการเบื้องต้นหากอยู่ในความดูแลที่สามารถควบคุมได้รวม 40 นาย และหากมีกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ก็สามารถประสานงานได้โดยตรงเพื่อความช่วยเหลือที่เร่งด่วนได้ต่อไปด้วยเช่นกัน
รวมไปถึงเข้าไปสแกน คิวอาร์โค๊ท จากไลท์ ชมแผนทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดของ ททท.ได้ เพื่อรับทราบถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการใช้ วิวัฒน์นาการ ที่ทันสมัย เช่นแอฟพิเคชั่นต่างๆ มาสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวให้สะดวกและรวดเร็ว
สำหรับแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในปี 2561 คงจะเน้นไปที่ตลาดศักยภาพหรือ Hi-end โดยแยกออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1.กลุ่มสตรี ตามแผน Amazing Lady Journey ที่จะเน้นกิจ กรรมด้านที่พัก สปา อาหาร กอล์ฟ และกิจกรรมการล่องเรือยอร์ช 2.การส่งเสริมเรื่องของอาหารท้องถิ่น หรือความหลากหลายของพัทยา ให้มาเป็นตัวนำในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น โดยจะมีการจัดทำ Eat@Chonburi เพื่อนำเสนอข้อมูลร้านอาหารที่น่าสนใจจำนวนมากนับ 100 แห่ง รวมทั้งส่วนลดต่างๆ 3.การส่ง Mice City ที่ยังคงเน้นการจัดประชุมสัมมนา โดยจะมีกลุ่มเป้าหมายจำพวก หน่วยงานรัฐ เอกชน หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือ Table Top Sale ไปตามภูมิภาคต่างๆของประเทศ 4.Pattaya Variety ที่จะนำภาคเอกชนเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่บริษัทนำเที่ยวทั่วโลก และ 5.การขายแนวทางการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC ในพื้นที่ 3 เมืองหลัก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา หรือเมืองน่าอยู่ ชลบุรี เมืองสมัยใหม่ และระยอง เมืองแห่งอุตสาหกรรม เพื่อให้ตลาดเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้คาดว่าจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา

