กระทรวงการคลัง ยืนยันสถาบันการเงินของไทยยังมีความแข็งแกร่ง ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว

0
2403

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์วิกฤตสถาบันการเงินต่างชาติทั้งการปิดสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และการขาดสภาพคล่องของ ธนาคารแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นขนาดใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่าสถาบันการเงินในไทยไม่มีธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีการลงทุนผ่านกองทุนบ้างแต่ในปริมาณเล็กน้อย จึงยืนยันได้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อสถาบันการเงินของไทยทั้งระบบธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของประเทศไทย



และในปัจจุบันระบบสถาบันการเงินของไทยยังมีความแข็งแกร่งจากทุกตัวชี้วัดล้วนเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการค้ำประกันเงินฝากกองทุนสำรอง หรืออัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เนื่องจากไทยมีการกำกับดูแลสถาบันการเงินอย่างเข้มแข็งตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 และปี 2550


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2565 จนถึงปัจจุบันตัวเลขการส่งออกยังชะลอตัวต่อเนื่อง ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้านโยบายขยายตลาดใหม่โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน


แต่อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจไทย ยังได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเกิดกว่าที่คาดการณ์ไว้ สร้างรายได้ให้ประเทศและเกิดการเชื่อมโยงในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้กระทรวงการคลัง คาดว่าในปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยคงขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3- 4