กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กแรกเกิดถึง 4 ปี เตือน ผู้ปกครองพาบุตรหลานฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดให้ครบ 2 เข็ม

0
1232

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้รายงานถึงสถานการณ์โรคหัดในประเทศไทย ว่าในปี 2565 ที่ผ่านมาพบว่าผู้ป่วยโรคหัด จำนวน 230 ราย และในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 เม.ย. 2566 พบว่ามีรายงานผู้ป่วยโรคหัด จำนวน 79 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 0.12 ต่อแสนประชากร ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต พบอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอายุแรกเกิด – 4 ปี กลุ่มอายุ 25-34 ปี และกลุ่มอายุ 35-44 ปี ตามลำดับ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ยโสธร ภูเก็ต ยะลา นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่พบการระบาดเป็นกลุ่ม



ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค คาดการณ์ว่าด้วยสภาพอากาศในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคหัดได้ และโรคหัดติดต่อผ่านทางเดินหายใจมีอาการคล้ายไข้หวัด คือ มีไข้ ไอแห้งๆ มีน้ำมูก และตาแดง หลังจากมีไข้ประมาณ 3–4 วัน จะเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นที่ใบหน้า แล้วค่อยลามไปแขนและขา เมื่อผื่นขึ้นประมาณ 1-2 วัน ไข้จะเริ่มลดลง


โดยในผู้ป่วยบางรายสามารถพบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด (MMR) ตั้งแต่วัยเด็ก กรมควบคุมโรคแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม เข็มแรกเมื่ออายุ 9 -12 เดือน และเข็มที่สองตอนอายุ 2 ปี 6 เดือน